เคล็ด(ไม่)ลับ ดูแลรถขาวให้สวยใสเสมอ
Last updated: 10 พ.ย. 2565 | 649 จำนวนผู้เข้าชม |
สภาพอากาศในบ้านเราเป็นแบบร้อนชื้น เจอทั้งแดดทั้งฝนกระหน่ำ จากสีขาว หรือสีขาวมุกที่ดูสวยใส กลับเกิดคราบหมองหม่น ออกเหลืองได้ ถ้าเจ้าของรถไม่ได้ดูแลรักษา จอดรถตากแดดตากฝนตลอด จึงดูเก่าเร็วกว่ารถสีอื่น
เอเอส ออโต จึงอยากแนะนำวิธีที่จะช่วยรักษารถสีขาวให้สีคงอยู่ทน สวย และใสอยู่เสมอครับ
1. ล้างรถอาทิตย์ละครั้ง
ปกติการใช้รถยนต์ ไม่ว่าจะสีอะไรก็ตาม เราก็ควรจะต้องล้างรถอยู่เสมอ เพราะรถยนต์ของเราต้องเจอทั้งสิ่งสกปรกต่างๆ เช่น ขี้นก โคลน คราบต่างๆ ฯลฯ ซึ่งสิ่งสกปรกเหล่านี้มีความเป็นกรดด่างที่คอยทำลายเนื้อสีชั้นต่างๆ ให้เป็นรอยด่างหรือซีดได้ จึงควรหมั่นล้างรถบ่อยๆ หรืออาทิตย์ละครั้งได้ยิ่งดีครับ
สำหรับรถยนต์สีขาว ควรล้างรถจากด้านบนจนเสร็จก่อน และค่อยนำฟองน้ำชิ้นใหม่มาใช้เช็ดล้างตัวถังรถส่วนล่างต่อ เนื่องจากส่วนล่างของรถสกปรกกว่า มีทั้งคราบดินคราบโคลน หรือสิ่งสกปรกที่ดีดขึ้นมาจากล้อรถ
*การใช้ฟองน้ำร่วมกันล้างรถทั้งคัน จะทำให้เกิดคราบสกปรกขึ้นบนตัวถังด้านบนได้ ซึ่งรถสีขาวจะเห็นได้ชัด
2. เช็ดรถต้องแห้งและสะอาด
เมื่อล้างรถเสร็จแล้ว อย่าปล่อยให้รถแห้งเอง ควรใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์ หรือผ้าชามัวร์สำหรับเช็ดรถโดยเฉพาะ เพื่อไม่ให้เกิดรอยขนแมวบริเวณสีผิวตัวรถ
เพราะการนำน้ำประปา หรือใช้น้ำบาดาลมาล้างรถ ในน้ำจะมีแร่ธาตุหลากหลายชนิด โดยเฉพาะแคลเซียม และแมกนีเซียม ทำให้น้ำมีความกระด้างสูง ถ้าใช้ล้างรถไปนานๆ แล้วไม่เช็ดให้แห้งให้เกลี้ยง ก็จะเกิดคราบหินปูนบนสีรถ หรือกระจกรถขึ้นมา
ปกติการใช้รถยนต์ ไม่ว่าจะสีอะไรก็ตาม เราก็ควรจะต้องล้างรถอยู่เสมอ เพราะรถยนต์ของเราต้องเจอทั้งสิ่งสกปรกต่างๆ เช่น ขี้นก โคลน คราบต่างๆ ฯลฯ ซึ่งสิ่งสกปรกเหล่านี้มีความเป็นกรดด่างที่คอยทำลายเนื้อสีชั้นต่างๆ ให้เป็นรอยด่างหรือซีดได้ จึงควรหมั่นล้างรถบ่อยๆ หรืออาทิตย์ละครั้งได้ยิ่งดีครับ
สำหรับรถยนต์สีขาว ควรล้างรถจากด้านบนจนเสร็จก่อน และค่อยนำฟองน้ำชิ้นใหม่มาใช้เช็ดล้างตัวถังรถส่วนล่างต่อ เนื่องจากส่วนล่างของรถสกปรกกว่า มีทั้งคราบดินคราบโคลน หรือสิ่งสกปรกที่ดีดขึ้นมาจากล้อรถ
*การใช้ฟองน้ำร่วมกันล้างรถทั้งคัน จะทำให้เกิดคราบสกปรกขึ้นบนตัวถังด้านบนได้ ซึ่งรถสีขาวจะเห็นได้ชัด
2. เช็ดรถต้องแห้งและสะอาด
เมื่อล้างรถเสร็จแล้ว อย่าปล่อยให้รถแห้งเอง ควรใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์ หรือผ้าชามัวร์สำหรับเช็ดรถโดยเฉพาะ เพื่อไม่ให้เกิดรอยขนแมวบริเวณสีผิวตัวรถ
เพราะการนำน้ำประปา หรือใช้น้ำบาดาลมาล้างรถ ในน้ำจะมีแร่ธาตุหลากหลายชนิด โดยเฉพาะแคลเซียม และแมกนีเซียม ทำให้น้ำมีความกระด้างสูง ถ้าใช้ล้างรถไปนานๆ แล้วไม่เช็ดให้แห้งให้เกลี้ยง ก็จะเกิดคราบหินปูนบนสีรถ หรือกระจกรถขึ้นมา
3. อย่าจอดรถตากแดด
การจอดรถตากแดดบ่อยๆ นี่ถือเป็นการทำลายสีรถอย่างช้าๆอีกวิธีหนึ่ง เพราะนอกจากจะเจอสภาพอากาศร้อนชื้น คราบน้ำฝน คราบสกปรกจากละอองฝุ่นในอากาศ และความร้อนและรังสีอัลตราไวโอเลต (รังสี UV) ที่คอยทำลายสีรถและชั้นเคลือบสีไปอย่างช้าๆ จนแลกเกอร์เสื่อมสภาพ ทำให้รถสีขาวนั้นดูหมองเหลืองเร็ว หนักกว่านั้นก็จะสีซีด ชั้นเคลือบสีลอกเป็นดวงๆ จนต้องทำสีใหม่เลยก็ว่าได้
*ควรหาที่จอดรถในร่ม ไม่ว่าจะที่บ้าน หรือที่ไหนก็ตาม เพื่อช่วยยืดสภาพสีขาวของรถคุณให้ได้นานที่สุด ที่ช่วยให้รถสีไม่หมองเร็ว
การจอดรถตากแดดบ่อยๆ นี่ถือเป็นการทำลายสีรถอย่างช้าๆอีกวิธีหนึ่ง เพราะนอกจากจะเจอสภาพอากาศร้อนชื้น คราบน้ำฝน คราบสกปรกจากละอองฝุ่นในอากาศ และความร้อนและรังสีอัลตราไวโอเลต (รังสี UV) ที่คอยทำลายสีรถและชั้นเคลือบสีไปอย่างช้าๆ จนแลกเกอร์เสื่อมสภาพ ทำให้รถสีขาวนั้นดูหมองเหลืองเร็ว หนักกว่านั้นก็จะสีซีด ชั้นเคลือบสีลอกเป็นดวงๆ จนต้องทำสีใหม่เลยก็ว่าได้
*ควรหาที่จอดรถในร่ม ไม่ว่าจะที่บ้าน หรือที่ไหนก็ตาม เพื่อช่วยยืดสภาพสีขาวของรถคุณให้ได้นานที่สุด ที่ช่วยให้รถสีไม่หมองเร็ว
4. เลือกอู่ทำสีรถที่ดีและแม่นยำ
ขึ้นชื่อว่ารถสีขาว ย่อมเห็นเป็นเด่นชัดอยู่แล่ว ไม่ว่าจะเป็นคราบสกปรก หรือความเพิ้ยนของสีตัวรถ ถ้าหากจุดใดจุดหนึ่งของรถคุณโดนเฉี่ยวชนมา หากต้องการทำสีใหม่ ต้องให้ช่างสีเทียบสีรถกันให้ดี หรือเช็ครหัสสีรถจากผู้ผลิตรถให้ตรงรุ่นกับรถของคุณ
*เพราะสีขาวนั้นแต่ละยี่ห้อ แต่ละรุ่น ก็มีคิดสูตรออกมาหลายเฉดสีมาก ถ้าไม่ตรวจสอบตรงจุดนี้ก่อน ทำสีออกมาเสร็จแล้วชิ้นส่วนที่ทำสีแล้ว อาจสีเพี้ยนไปจากสีรถทั้งคันได้
ขึ้นชื่อว่ารถสีขาว ย่อมเห็นเป็นเด่นชัดอยู่แล่ว ไม่ว่าจะเป็นคราบสกปรก หรือความเพิ้ยนของสีตัวรถ ถ้าหากจุดใดจุดหนึ่งของรถคุณโดนเฉี่ยวชนมา หากต้องการทำสีใหม่ ต้องให้ช่างสีเทียบสีรถกันให้ดี หรือเช็ครหัสสีรถจากผู้ผลิตรถให้ตรงรุ่นกับรถของคุณ
*เพราะสีขาวนั้นแต่ละยี่ห้อ แต่ละรุ่น ก็มีคิดสูตรออกมาหลายเฉดสีมาก ถ้าไม่ตรวจสอบตรงจุดนี้ก่อน ทำสีออกมาเสร็จแล้วชิ้นส่วนที่ทำสีแล้ว อาจสีเพี้ยนไปจากสีรถทั้งคันได้
5. ขัดสี เคลือบสีรถ (อีกหนึ่งทางเลือกเพิ่มเติม)
หลังจากล้างรถเสร็จ สามารถใช้น้ำยาเคลือบสีรถ แว็กซ์เคลือบสีรถ หรือ Cleaner Wax อย่างน้อยๆ เดือนละครั้ง เพราะในน้ำยาหรือแว็กซ์จะมีฟิล์มบางๆ เคลือบสีรถเอาไว้ ช่วยให้เกิดคราบเหลืองได้ช้าลง
หลังจากล้างรถเสร็จ สามารถใช้น้ำยาเคลือบสีรถ แว็กซ์เคลือบสีรถ หรือ Cleaner Wax อย่างน้อยๆ เดือนละครั้ง เพราะในน้ำยาหรือแว็กซ์จะมีฟิล์มบางๆ เคลือบสีรถเอาไว้ ช่วยให้เกิดคราบเหลืองได้ช้าลง
*ควรสังเกตก่อนด้วยนะครับว่า น้ำยาเคลือบสีรถ หรือแว็กซ์เคลือบสีรถ มีทั้งแบบใช้เฉพาะรถสีขาว และรถสีเข้มครับ
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง
5 จุดเสี่ยงควร"เลี่ยงจอด"ช่วงหน้าฝน
20 พ.ค. 2566
เช็คของเหลว 3 จุด ก่อนออกเดินทางนั้นง่ายนิดเดียว
16 ธ.ค. 2565
5 สิ่งห้ามไว้ในรถช่วงหน้าร้อน
7 มี.ค. 2566
Powered by
MakeWebEasy.com